
แชร์หน้านี้
Select Language
การค้นหาขั้นสูง: ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด, ประเภท, ระยะเวลา, พื้นที่ และ Tag สามารถค้นหาแบบละเอียดได้
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: March 13, 2025
เดือนเมษายนเป็นหนึ่งในช่วงเวลาอันเหมาะสมที่สุดสำหรับการไปเยือนโตเกียว มีดอกไม้ต่างๆ เช่นดอกซากุระประดับประดาเมืองอย่างงดงาม มีอีเวนต์มากมายให้คุณสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น เทศกาลเฉลิมฉลองการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิอันสดใส มาสร้างความทรงจำพิเศษในโตเกียวไปกับสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิอันแสนรื่นรมย์กันเถอะ
อุณหภูมิเฉลี่ย 17.1 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 21.8 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุด 13.1 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่นและอ่อนโยนเหมาะสำหรับการเดินเล่นและกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนอาจมีวันที่ลมแรง จึงแนะนำให้นำผ้าพันคอหรือเสื้อกันหนาวมีหมวกติดตัวไปด้วย
*อ้างอิงจากข้อมูลสภาพอากาศของปี 2024
หากกล่าวถึงไฮไลท์ของการท่องเที่ยวโตเกียวในช่วงต้นเดือนเมษายนก็ต้องนึกถึงซากุระ โดยมีงานอีเวนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เช่น “อุเอโนะซากุระมัตสึริ (เทศกาลดอกซากุระ)” ที่สวนสาธารณะอุเอโนะ, “งานเทศกาลซากุระ” ที่สวนสาธารณะซูมิดะ และ “เทศกาลซากุระที่จิโยดะ” ที่จัดขึ้นบริเวณทางเดินสีเขียวจิโดริกาฟูจิซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียลอีกด้วย ภาพของซากุระที่ปลิวว่อนจากกลีบดอกที่เริ่มร่วงหล่น และ “ฮานะอิคาดะ” หรือภาพกลีบดอกซากุระที่ล่องลอยบนผืนน้ำนั้น ช่างเป็นทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
สนับสนุนภาพโดย : สมาคมการท่องเที่ยวเขตจิโยดะ
ศาลเจ้าเนซุซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,900 ปี ในสวนดอกอาซาเลียซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 6,600 ตารางเมตรและมีประวัติศาสตร์กว่า 300 ปีแห่งนี้ มีดอกอาซาเลียกว่า 100 ชนิด 3,000 ต้น ปลูกเรียงรายอยู่ อีกทั้งยังมีดอกไม้หายาก เช่น ดอกอาซาเลียฟูจิซึ่งเป็นดอกไม้ขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดถั่ว ดอกแดนดิไลออนที่มีกลีบดอกรูปร่างราวกับกังหันลม และดอกอาซาเลียคาราฟุเนะหรือที่เรียกว่าดอกอาซาเลียดำอยู่ด้วย ในงาน “เทศกาลชมดอกอาซาเลียบุนเคียว” ที่ศาลเจ้าเนซุ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับแผงขายของกลางแจ้งมากมาย รวมถึงตลาดต้นไม้และตลาดของเก่า
ศาลเจ้าคะเมอิโดะเท็นจินซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ชมดอกฟูจิที่เยี่ยมยอดที่สุดในโตเกียวนั้น ในช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน จะมีการจัด “เทศกาลฟูจิมัตสุริ” ขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนเมษายน
ตามช่วงเวลาที่ดอกไม้เริ่มบานในช่วงปลายเดือนเมษายน ภาพของดอกไม้สีลาเวนเดอร์อันงดงามที่พริ้วไหวไปตามลมของฤดูใบไม้ผลินั้น จะจารึกเป็นภาพในความทรงจำอันยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
“เจแปนฮอบบี้โชว์” เป็นนิทรรศการจัดแสดงผลงานหัตถกรรมระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีที่โตเกียวบิ๊กไซต์ โดยจะมีทั้งวัสดุและอุปกรณ์ของงานหัตถกรรมต่างๆ เช่น งานเย็บปักถักร้อย มาจัดแสดงจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ อีกทั้งยังมีครีเอเตอร์มากมายที่นำผลงานของตนมาจัดแสดงและจำหน่าย จึงเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่สุดในการเลือกหาสินค้าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีการจัดเวิร์กชอปที่ให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลายกว่าร้อยกิจกรรมอีกด้วย
“อาซากุสะ ยาบุซาเมะ (การยิงธนูบนหลังม้า)” ซึ่งเป็นงานประเพณีดั้งเดิม จัดขึ้นที่สวนสาธารณะซูมิดะ ถือเป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะได้ชมงานประเพณีอันทรงพลังและห้าวหาญในแบบฉบับของยุคโบราณ จะมีผู้ที่สวมชุดเกราะซามูไรแบบดั้งเดิมและยิงธนูจากบนหลังม้าซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อเล็งเป้าธนูที่ 1 เป้าที่ 2 เป้าที่ 3 ไปตามลำดับ
ภูเขาทาคาโอะเป็นสถานที่ซึ่งมีทัศนียภาพอันงดงามที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโตเกียว“เทศกาลใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ” ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีนั้น จะจัดขึ้นที่วัดยาคุโออินซึ่งอยู่กลางหุบเขา คุณสามารถชมพิธีสวดบูชาไฟและขบวนพาเหรดของเด็กๆ
ระบำไดไดคากูระซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกรุงโตเกียวนั้น เป็นงานพิธีตามประเพณีดั้งเดิมซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้าชินากาวะ โดยในปี 1600 ได้มีการจัดเต้นระบำนี้เมื่อครั้งที่โทกุงาวะ อิเอยาสุทำการบูชาบวงสรวงเพื่อขอชัยชนะในการต่อสู้ ก่อนที่จะมีการกล่าวกันว่าเป็นการต่อสู้ครั้งที่ตัดสินชัยชนะในสงคราม ระบำใดไดคากูระนี้จะมีการจัดแสดงปีละ 4 ครั้งด้วยกันในโอกาสสำคัญต่างๆ โดยในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของศาลเจ้าชินากาวะซึ่งจัดขึ้นในเดือนเมษายนนั้น จะมีระบำถึงหกแบบซึ่งถือเป็นการจัดแสดงที่มากที่สุดในหนึ่งเทศกาล
ศาลเจ้าเมจิซึ่งตั้งอยู่ที่ฮาราจูกุเป็นที่ประดิษฐานของดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็ง ซึ่งเป็นผู้ผลักดันการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นให้เข้าสู่ยุคใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยในเทศกาลใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมนี้ สามารถเพลิดเพลินกับศิลปะดั้งเดิมหลากหลาย เช่น การแสดงดนตรีบูกาคุ ละครโน เคียวเง็น ซึ่งถือกำเนิดมาจากการเต้นรำในพระราชสำนักสมัยโบราณ และการแสดงดนตรีญี่ปุ่นด้วยเครื่องดนตรี 3 ประเภท เป็นต้น โดยผู้แสดงจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น