คู่มือโตเกียวของฉัน
เมื่อพบหน้าเพจที่สนใจ กรุณาคลิกที่เครื่องหมายหัวใจเพื่อบันทึกไว้เป็น "ประวัติการเข้าชมของฉัน" กัน
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: March 15, 2024
เดือนเมษายนเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการไปเยือนโตเกียว เพราะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยงานเทศกาลมากมายที่เฉลิมฉลองการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิที่สดใสและธรรมชาติอันงดงาม
อุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างวันอยู่ที่ประมาณ 19.4 องศาเซลเซียส ช่วงกลางคืนอยู่ที่ประมาณ 9.8 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาสิ้นสุดของฤดูหนาวและมีภูมิอากาศราบเรียบเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนอาจมีวันที่ลมแรง จึงแนะนำให้นำผ้าพันคอหรือเสื้อกันหนาวมีหมวกติดตัวไปด้วย
หากกล่าวถึงไฮไลท์ของการท่องเที่ยวโตเกียวในช่วงต้นเดือนเมษายนก็ต้องนึกถึงซากุระ โดยมีงานอีเวนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เช่น “อุเอโนะซากุระมัตสึริ (เทศกาลดอกซากุระ)” ที่สวนสาธารณะอุเอโนะ, “งานเทศกาลซากุระ” ที่สวนสาธารณะซูมิดะ และ “เทศกาลซากุระที่จิโยดะ” ที่จัดขึ้นบริเวณทางเดินสีเขียวจิโดริกาฟูจิซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียลอีกด้วย ภาพของซากุระที่ปลิวว่อนจากกลีบดอกที่เริ่มร่วงหล่น และ “ฮานะอิคาดะ” หรือภาพกลีบดอกซากุระที่ล่องลอยบนผืนน้ำนั้น ช่างเป็นทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ศาลเจ้าเมจิซึ่งตั้งอยู่ที่ฮาราจุกุ เป็นศาลเจ้าเพื่อเคารพดวงวิญญาณของจักรพรรดินีโชเก็งพระพันปีหลวง ซึ่งเป็นพระจักรพรรดินีในพระจักรพรรดิยุคเมจิซึ่งเป็นผู้ผลักดันการสร้างสรรค์ประเทศให้เข้าสู่ยุคใหม่ของญี่ปุ่น โดยในเทศกาลใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมนี้ สามารถเพลิดเพลินกับศิลปะดั้งเดิมหลากหลาย เช่น การแสดงดนตรีบูกาคุ ละครโน เคียวเง็น ซึ่งถือกำเนิดมาจากการเต้นรำในพระราชสำนักสมัยโบราณ และการแสดงดนตรีญี่ปุ่นด้วยเครื่องดนตรี 3 ประเภท เป็นต้น โดยผู้แสดงจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
“อาซากุสะ ยาบุซาเมะ (การยิงธนูบนหลังม้า)” ซึ่งเป็นงานประเพณีดั้งเดิม จัดขึ้นที่สวนสาธารณะซูมิดะ ถือเป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะได้ชมงานประเพณีอันทรงพลังและห้าวหาญในแบบฉบับของยุคโบราณ จะมีผู้ที่สวมชุดเกราะซามูไรแบบดั้งเดิมและยิงธนูจากบนหลังม้าซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อเล็งเป้าธนูที่ 1 เป้าที่ 2 เป้าที่ 3 ไปตามลำดับ
ภูเขาทาคาโอะเป็นสถานที่ซึ่งมีทัศนียภาพอันงดงามที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโตเกียว“เทศกาลใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ” ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีนั้น จะจัดขึ้นที่วัดยาคุโออินซึ่งอยู่กลางหุบเขา คุณสามารถชมพิธีสวดบูชาไฟและขบวนพาเหรดของเด็กๆ
"เจแปนฮอบบี้โชว์" งานแสดงสินค้าซึ่งรวบรวมผลงานหัตถกรรมจากทั่วโลก จะจัดขึ้นที่โตเกียวบิ๊กไซต์ ในช่วงปลายเดือนเมษายนของทุกปี โดยจะมีทั้งวัสดุและอุปกรณ์ของงานหัตถกรรมต่างๆ เช่น งานเย็บปักถักร้อย มาจัดแสดงจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ อีกทั้งยังมีครีเอเตอร์มากมายที่นำผลงานของตนมาจัดแสดงและจำหน่าย จึงเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่สุดในการเลือกหาสินค้าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีการจัดเวิร์กชอปที่ให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลายกว่าร้อยกิจกรรมอีกด้วย
ระบำไดไดคากูระซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกรุงโตเกียวนั้น เป็นงานพิธีตามประเพณีดั้งเดิมซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้าชินากาวะ โดยในปี 1600 ได้มีการจัดเต้นระบำนี้เมื่อครั้งที่โทกุงาวะ อิเอยาสุทำการบูชาบวงสรวงเพื่อขอชัยชนะในการต่อสู้ ก่อนที่จะมีการกล่าวกันว่าเป็นการต่อสู้ครั้งที่ตัดสินชัยชนะในสงคราม ระบำใดไดคากูระนี้จะมีการจัดแสดงปีละ 4 ครั้งด้วยกันในโอกาสสำคัญต่างๆ โดยในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของศาลเจ้าชินากาวะซึ่งจัดขึ้นในเดือนเมษายนนั้น จะมีระบำถึงหกแบบซึ่งถือเป็นการจัดแสดงที่มากที่สุดในหนึ่งเทศกาล
ศาลเจ้าคะเมอิโดะเท็นจินซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสถานที่ชมดอกฟูจิที่เยี่ยมยอดที่สุดในโตเกียวนั้น ในช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน จะมีการจัด “เทศกาลฟูจิมัตสุริ” ขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนเมษายน
ตามช่วงเวลาที่ดอกไม้เริ่มบานในช่วงปลายเดือนเมษายน ภาพของดอกไม้สีลาเวนเดอร์อันงดงามที่พริ้วไหวไปตามลมของฤดูใบไม้ผลินั้น จะจารึกเป็นภาพในความทรงจำอันยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
ศาลเจ้าเนซุซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,900 ปี ในสวนดอกอาซาเลียซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 6,600 ตารางเมตรและมีประวัติศาสตร์กว่า 300 ปีแห่งนี้ มีดอกอาซาเลียกว่า 100 ชนิด 3,000 ต้น ปลูกเรียงรายอยู่ อีกทั้งยังมีดอกไม้หายาก เช่น ดอกอาซาเลียฟูจิซึ่งเป็นดอกไม้ขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดถั่ว ดอกแดนดิไลออนที่มีกลีบดอกรูปร่างราวกับกังหันลม และดอกอาซาเลียคาราฟุเนะหรือที่เรียกว่าดอกอาซาเลียดำอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีตลาดต้นไม้และตลาดขายของเก่า มีร้านค้ามากมายมาออกร้านกันอย่างคึกคัก