คู่มือโตเกียวของฉัน
เมื่อพบหน้าเพจที่สนใจ กรุณาคลิกที่เครื่องหมายหัวใจเพื่อบันทึกไว้เป็น "ประวัติการเข้าชมของฉัน" กัน
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: February 20, 2023
ยานากะและเนซุที่รอดพ้นจากการโจมตีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและภัยธรรมชาติได้อย่างปาฏิหาริย์-เขตสองเขตที่ตั้งอยู่ติดกันเป็น “ย่านดาวน์ทาวน์” ที่แสดงให้เห็นถึงเขตชุมชนของชาวบ้านธรรมดาในโตเกียว-ยังคงหลงเหลือบรรยากาศของยุคโชวะอยู่ ถนนแคบๆ ที่ตัดผ่านตัวเมือง ตัวอาคารโบราณทำจากไม้ ร้านเหล้าสไตล์อิซากายะ ร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร้านค้าย้อนยุคที่ขายของขบเคี้ยวและขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่าง “สุสานยานากะ” หรือ “ศาลเจ้าเนซุ” แฝงตัวอยู่ เวลาที่นี่เดินอย่างช้าๆ ให้เรารู้สึกราวกับได้เดินทางข้ามกาลเวลากลับไปสู่โตเกียวในอดีต
สามารถเดินทางโดยรถไฟสาย JR ยามาโนะเทะ, สายเคฮินโทโฮกุ, สายโจบัง, สายนิปโปริโทเนริไลน์เนอร์หรือรถไฟเอกชนสายเคเซเด็งเท็ตสึ มายังสถานี “นิปโปริ” นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟโตเกียวเมโทรสายจิโยดะมายังสถานี “เนซุ” หรือ สถานี “เซ็นดากิ” ได้
จากสนามบินฮาเนดะ : ใช้เวลา 55 นาทีโดยรถไฟ
จากสนามบินนาริตะ : ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยรถไฟ
จากสถานีชินจูกุ : เดินทางโดยรถไฟ JR สายยามาโนะเทะไปยังสถานี “นิปโปริ” ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที
จากสถานีโตเกียว : เดินทางโดยรถไฟ JR สายยามาโนะเทะไปยังสถานี “นิปโปริ” ใช้เวลาเดินทาง 12 นาที
ย่านร้านค้ายานากะกินซ่ามีมาตั้งแต่อดีต มีร้านค้าประมาณ 60 ร้าน ตามถนนระยะทาง 170 เมตร ได้รับการตกแต่งประดับประดาไปด้วยโคมไฟ เนื่องจากพื้นที่แถบนี้สามารถรอดพ้นความเสียหายจากสงครามและแผ่นดินไหวมาได้ เมื่อเดินผ่านเข้าไปทำให้เหมือนได้กลับเข้าไปในยุคโชวะ (ปี 1926 - 1989)
จะเข้าไปแวะชมร้านขายขนมญี่ปุ่นหรือขนมขบเคี้ยวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หรือร้านขายงานหัตถกรรมก็ได้ หากให้ยกตัวอย่างของทานเล่นโบราณบางอย่างที่สามารถซื้อกลับได้และช่วยคลายความหิว จะมีมันแท่งอบกรอบ หมูชุบเกล็ดขนมปังทอดชุ่มฉ่ำ เกาลัดคั่วหรือปลาหมึกย่าง เป็นต้น จะซื้อแล้วเดินไปกินไปก็ได้
ลองเพ่งความสนใจไปที่ "ชิจิฟุคุเนะโกะ" ในย่านยานากะกินซ่า จะสามารถเพลิดเพลินไปกับขนมที่ทำขึ้นโดยมีแมวเป็นแรงบันดาลใจและขนมรูปร่างแมวได้ด้วย
หากเป็นช่วงย่ำค่ำก็สามารถไปขั้นบันไดที่เรียกว่า “ยูยาเกะดันดัน” (บันไดแห่งอาทิตย์อัสดง) เพื่อชมทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ตกดินบนวิวเมืองได้
บนถนนของยานากะและเนซุ ไม่ได้มีแค่เพียงร้านค้าที่ขายอาหารพื้นเมืองและงานหัตถกรรมเท่านั้น จุดท่องเที่ยวทางศิลปะที่เต็มไปความปรารถนาอันแรงกล้าแห่งนี้ยังมีการจัดแสดงงานศิลป์ทุกแขนงทุกสาขาอีกด้วย “แกลเลอรี่ฮากิโซ” ที่ได้รับการปรับปรุงมาจากอพาร์ตเมนต์ไม้นั้นเป็นคาเฟ่และแกลเลอรี่ที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก ส่วนแกลเลอรี่งานศิลปะร่วมสมัย “SCAI the Bathhouse” เคยเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะมาก่อน ได้ถูกนำมาจัดแสดงผลงานของเหล่าศิลปินร่วมสมัยทั้งในและต่างประเทศ ห้องทำงานและที่พักอาศัยของนักแกะสลักชาวญี่ปุ่นคุณฟูมิโอะ อาซากุระ (ปี 1883 - 1964) ปัจจุบันได้กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์ศิลปะงานสลักอาซากุระ” นอกจากนั้นที่ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะทาเกฮิสะ ยูเมจิ” มีการจัดแสดงผลงานของสุดยอดนักวาดภาพพู่กันชั้นแนวหน้า ยูเมจิ ทาเกฮิสะ (ปี 1884 - 1934) ตัวแทนของยุคสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกเรียกว่าไทโชโรมันในสมัยไทโช (ปี 1912 - 1926) อีกด้วย หากยังพอมีเวลาก็อยากให้ลองแวะที่ “พิพิธภัณฑ์นาฬิกาไดเมียว” เพื่อชมนาฬิกาเจ๋งๆ มากมายของช่วงยุคก่อนพัฒนา
ถนนของเนซุและยานากะชวนให้หวนนึกถึงยุคโชวะและไทโชก็จริง แต่ที่นี่ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมากที่จะพาย้อนเวลากลับไปไกลกว่านั้นได้ ณ “สุสานยานากะ” อันกว้างขวางเป็นที่หลับใหลอย่างสงบของเหล่าบรรพชน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สุสานแต่ยังเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยร่มไม้เขียวขจีอันเหมาะแก่การเดินเล่นอย่างยิ่ง แนะนำให้ลองไปเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระเบ่งบานเต็มที่ ชมสถานที่ซึ่งเป็นที่หลับไหลของเหล่าทหารและศิลปินผู้ล่วงลับและถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูระเรื่อของดอกซากุระ นอกจากนั้นในเขตพื้นที่ของ “ศาลเจ้าเนซุ” สถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง มีเสาโทริอิพันต้น บ่อน้ำที่มีปลาคาร์ฟสีฉูดฉาดว่ายวนเวียนอยู่ และอาคารหลักของศาลเจ้าที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมใน “เทศกาลบุงเกียวสึสึจิ” จัดขึ้นในเดือนเมษายน จะครึกครื้นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก และยังมีบ้านพักโบราณ 3 หลังที่ “อุเอโนะ ซากุระงิ อาตาริ” ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับการแปลงโฉมเป็นร้านเบเกอรี่เลิศรส โรงเบียร์ ร้านขายเกลือและน้ำมันมะกอก รวมถึงพื้นที่สำหรับชุมชนและเวิร์กชอปด้วย
ลองย้อนเวลากลับไปที่ร้าน Kayaba Coffee ซึ่งเป็นที่รักของผู้คนในชุมชน ในฐานะสัญลักษณ์ของยานากะกันดู อาคารไม้แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1916 และปี 1938 และให้บริการมาจนเจ้าของคนแรกเสียชีวิตลงในปี 2006 หลังจากนั้น ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งในปี 2009 ด้วยการสนับสนุนของผู้คนในท้องถิ่น โดยยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศของยุคโชวะ
หากมีเวลา ลองแวะไปเซนดากิที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งขึ้นชื่อเช่นเดียวกันในด้านอาคารสไตล์ดั้งเดิมเชิงประวัติศาสตร์ ย่านใกล้เคียงทั้งสาม ได้แก่ ยานากะ เนซุ และเซนดากินี้ เรียกรวมกันว่า "ยาเนะเซน"