คู่มือโตเกียวของฉัน
เมื่อพบหน้าเพจที่สนใจ กรุณาคลิกที่เครื่องหมายหัวใจเพื่อบันทึกไว้เป็น "ประวัติการเข้าชมของฉัน" กัน
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: October 19, 2022
เมื่อเดินออกจากสถานี “อุเอโนะ” ฐานของการคมนาคมขนส่งและเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน จะพบกับสถานที่อันสงบสุขที่สามารถเพลิดเพลินไปกับศิลปะ วัฒนธรรม และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ในสวนสาธารณะอุเอโนะอันกว้างใหญ่ใกล้กับสถานี มีพิพิธภัณฑ์หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะจำนวนมาก บ่อน้ำที่มีเรือพาย วัดเจดีย์ห้าชั้น และสวนสัตว์ขนาดใหญ่ซึ่งมีหมีแพนด้า มาสคอตสีขาวดำอาศัยอยู่ สวนสาธารณะอุเอโนะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมด้วยต้นซากุระที่เรียงรายพร้อมใจกันผลิดอกสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ และหากเดินเลียบไปตามเส้นทางรถไฟสายยามาโนเตะมุ่งหน้าสู่สถานี “โอกาจิมาจิ” ซึ่งเป็นสถานีข้างๆ จะพบกับย่านร้านค้า “อาเมโยโกะ” (สหพันธ์ย่านการค้าอาเมโยโกะ) ที่คึกคักไปด้วยเสียงจอแจของผู้คนมากมาย และขึ้นชื่อเรื่องเสียงเรียกจากพ่อค้าแม่ค้า ที่ต่างเปล่งเสียงเรียกขายสินค้าจำพวกเสื้อผ้า เครื่องปรุงรส เครื่องสำอาง และปลาสด เป็นต้น
สามารถเดินทางมาสถานี “อุเอโนะ” โดยรถไฟโตเกียวเมโทรสายกินซ่าและสายฮิบิยะ สำหรับรถไฟสายเคเซจะวิ่งผ่านที่สถานี “เคเซอุเอโนะ” ด้วยเช่นเดียวกัน
จากสนามบินฮาเนดะ : ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีโดยรถไฟ
จากสนามบินนาริตะ : ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยรถไฟ
จากสถานีชินจูกุ : เดินทางโดยรถไฟ JR สายยามาโนเตะ ไปยังสถานี “อุเอโนะ” ใช้เวลา 24 นาที
จากสถานีโตเกียว : เดินทางโดยรถไฟ JR สายยามาโนเตะ ไปยังสถานี “อุเอโนะ” ใช้เวลา 8 นาที
สวนสาธารณะอุเอโนะถือได้ว่าเป็นคลังสมบัติแห่งสีอย่างแท้จริง เพราะได้รับการแต่งแต้มสีสันมากมายทั้งด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิ สีชมพูพีชของดอกบัวที่บานในฤดูร้อน ไปจนถึงหมีแพนด้าสีขาวดำที่คุ้นเคยกันดีในสวนสัตว์อุเอโนะ โดยในฤดูใบไม้ผลิจะคึกคักไปด้วยผู้คนที่สนุกสนานเพลิดเพลินกับการปิกนิกใต้ต้นซากุระ ส่วนในฤดูร้อนจะมีกลุ่มคนรักการถ่ายภาพมารวมตัวกันเพื่อถ่ายภาพดอกบัวที่บานกระทบกับแสงแดดในบ่อน้ำชิโนบาซุ หากชมดอกไม้จนเหนื่อยแล้ว แนะนำให้เข้าไปนั่งพักในร้านกาแฟที่มีพื้นที่รับวิวด้านนอกเพื่อผ่อนคลายขาที่อ่อนล้า
สถานที่ที่ต้องใช้พลังงานมากกว่าการชมดอกไม้ก็คือสวนสัตว์อุเอโนะนั่นเอง การที่จะเดินชมเหล่าสัตว์ป่าต่างๆ เช่น กอริลล่า เสือ ช้างเอเชีย หมีขาว ภายในสวนสัตว์อันกว้างใหญ่ที่มีสัตว์กว่า 300 ชนิด 3,000 ตัวอาศัยอยู่นั้น ต้องใช้เวลาถึงครึ่งวันอย่างแน่นอน สัตว์ที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุดคือแพนด้ายักษ์สีขาวดำ ต้องเตรียมใจกับการที่ต้องต่อแถวรอเพื่อที่จะได้ชมความน่ารักของเจ้าแพนด้ายักษ์นี้ ประตูด้านหน้าอยู่ห่างจากทางออกโคเอ็นกุจิ (ทางออกฝั่งสวนสาธารณะ) ของสถานี JR อุเอโนะ ในระยะเดินเท้า 5 นาที ภายในสวนแบ่งออกเป็นสวนฝั่งตะวันออกและสวนฝั่งตะวันตก ที่สวนฝั่งตะวันออก นอกจากจะมีป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของกอริลล่าและเสือ ป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้าง และทะเลซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของหมีขาวและแมวน้ำแล้ว ยังมีเจดีย์ 5 ชั้นซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ และห้องสำหรับจัดพิธีชงชาที่เรียกว่า “คันคันเท” อีกด้วย ที่สวนฝั่งตะวันตกมี “ป่าหมีแพนด้า” ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนกันยายนปี 2020 และเป็นสถานอำนวยความสะดวกในการเลี้ยงดูแลแพนด้ายักษ์และสัตว์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในถิ่นที่อยู่นั้น นอกจากนี้ ยังมีร้านของฝากและร้านอาหารมากมายอีกด้วย
“อาเมโยโกะ” มีจุดเริ่มต้นมาจากตลาดมืดหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง มีร้านค้าแผงลอยกลางแจ้งขายของต่างๆ หลากหลายชนิด เริ่มตั้งแต่ขนมทานเล่นและของหวาน ไปจนถึงชุดเครื่องแบบทหาร ย่านร้านค้าที่เติบโตขยายอาณาเขตจนมีความยาวถึง 500 เมตร เมื่อเทียบกับในอดีตแล้วจะยาวกว่า แต่ตอนนี้ก็ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายความวุ่นวายในสมัยนั้นอยู่ และเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากที่ต่างส่งเสียงเรียกลูกค้าว่าอาหารสด เครื่องสำอาง เสื้อผ้าและเครื่องประดับของร้านตนที่มีราคาถูกกว่าที่อื่น หากนึกถึง “อาเมโยโกะ” สิ่งที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ก็คือเสียงเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ค้าซึ่งเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่จะขายของให้ได้ก่อนใครและขายให้ได้มากกว่าร้านอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีร้านค้าปลีกเฉพาะอย่างต่างๆ มากมาย เช่น ร้านขายชุดเครื่องแบบทหารและเครื่องประดับ รวมถึง “ตึกอาเมโยโกะเซ็นเตอร์” ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อสมุนไพรและเครื่องเทศหลายหลายชนิดได้ที่นี่ ขอแนะนำให้ลองชิมอาหารริมทางของอาเมโยโกะซึ่งมีเมนูที่ตั้งชื่อจากหมีแพนด้าแห่งสวนสัตว์อุเอโนะ ไม่ว่าจะเป็นแพนด้ายากิ ขนมปังแพนด้า แพนด้าเบนโตะ เป็นต้น
อุเอโนะมีพิพิธภัณฑ์และพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลกตั้งอยู่ในระยะทางที่สามารถเดินชมให้ครบได้ ที่ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ” มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับผลงานของบุคคลมีชื่อเสียงต่างๆ เช่น มอแน แวนโก๊ะ เรอนัวร์ ปีกัสโซ และแจ็กสัน พอลล็อก เป็นต้น
นอกจากนี้ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะอุเอโนะโมริ” ซึ่งจัดแสดงตั้งแต่งานศิลปะสมัยใหม่ล่าสุดโดยศิลปินรุ่นใหม่ ไปจนถึงนิทรรศการมังงะยอดนิยม ก็น่าสนใจเช่นกัน
แต่หากต้องการชื่นชมผลงานศิลปะประจำชาติของญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 150 ปี แนะนำ “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว” พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะเอเชียตะวันออกและของโบราณไว้มากมาย เช่น ภาพอุกิโยเอะภาพที่พิมพ์จากแม่พิมพ์ไม้ เครื่องปั้นดินเผาและดาบ เป็นต้น ที่ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” มีการจัดแสดงเพื่อให้ได้ค้นคว้าโลกธรรมชาติและ
ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหลากหลายมุมมอง โดยเน้นไดโนเสาร์เป็นหลัก