ไดคังยามะ

ช้อปปิ้งและทานมื้อเช้าควบมื้อเที่ยง

ไดคังยามะที่ถูกโอบล้อมโดยชิบุยะ นากาเมกุโระ เอบิสุนั้นมีแหล่งแฟชั่นบูติกหรูหรา นอกจากนั้นยังมีภัตตาคารและคาเฟ่อร่อยๆ ที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารมื้อเช้าควบเที่ยงอีกด้วย ถนนร่มรื่นเขียวขจียังมีผู้คนมากมายที่แต่งตัวเก๋ไก๋สะดุดตา ลองไปเดินชมบูติกในตรอกเล็กๆ ด้วยอารมณ์แบบเซเล็บ และทานมื้อเช้าควบเที่ยงตามคาเฟ่ชื่อดังกัน

วิธีการเดินทาง

สถานี “ไดคังยามะ” มีรถไฟโตคิวสายโทโยโกะวิ่งผ่านเพียงสายเดียว แต่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ โดยเดินเท้าจากชิบุยะ 15 นาที และจากเอบิสุ 10 นาที

จากสนามบินฮาเนดะ: ใช้เวลา 55 นาทีโดยรถไฟ
จากสนามบินนาริตะ: ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 50 นาทีโดยรถไฟ

จากสถานีชินจูกุ: ใช้เวลา 20 นาที โดยขึ้นรถไฟ JR สายยามาโนเตะ ไปลงสถานี “ชิบุยะ” และเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟโตคิวสายโทโยโกะ ลงที่สถานี “ไดคังยามะ”
จากสถานีโตเกียว: ใช้เวลา 35 นาที โดยขึ้นรถไฟ JR สายยามาโนเตะ ไปลงสถานี “ชิบุยะ” และเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟโตคิวสายโทโยโกะ ลงที่สถานี “ไดคังยามะ”

มื้อเช้าควบเที่ยง ปิกนิก และร้านขายของกระจุกกระจิกสุดเก๋

ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว การทานอาหารเช้าพร้อมอาหารเที่ยงอย่างเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันอาทิตย์เสมอไป เราสามารถซื้อขนมปังโฮมเมดและอาหารว่างจาก “ฮิลล์ไซด์แพนทรีไดคังยามะ” ร้านขายอาหารนำเข้าหลากหลายชนิดซึ่งตั้งอยู่ในห้าง “ฮิลล์ไซด์เทอเรส” ไปนั่งทานตรงที่นั่งริมระเบียงได้ หากเป็นคนชอบปิกนิกสามารถซื้อวัตถุดิบได้ที่ “ฮิลล์ไซด์แพนทรีไดคังยามะ” แห่งเดียวกันนี้ หรือห้าง “ไดคังยามะ 17 dixsept” ที่เชื่อมต่อโดยตรงด้วยสะพานลอยกับสถานีไดคังยามะ และมุ่งหน้าไปยัง “สวนสาธารณะไซโกยามะ” ใกล้ๆ ที่ตั้งอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นบริเวณรอบๆ ได้ทั่ว “ไดคังยามะ T-SITE" สุดเก๋ไก๋ ที่เรียกกันว่า "ห้องสมุดใจกลางป่า" มีอาคารสามหลังตั้งเรียงรายริมถนนแม็กกาซีน และมีมุมขายหนังสือ 6 จุดแบ่งตามหมวดหมู่ เช่น หนังสือต่างประเทศ หนังสือวินเทจ เป็นต้น ในสวรรค์ของคนรักหนังสือแห่งนี้สามารถเพลิดเพลินกับการเลือกหนังสือหรืออ่านหนังสือในพื้นที่ร้านกาแฟก่อนหรือหลังตัดสินใจซื้อได้ อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่มืออาชีพคอยช่วยเหลือ นอกจากนี้ อาจไปเลือกซื้อของขวัญที่ร้านเครื่องเขียน แล้วไปใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ จิบค็อกเทลที่ “อังจิน” เลานจ์เก๋ไก๋มีสไตล์ หรือออกไปชิลที่ “SHARE LOUNGE” ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ขอแนะนำให้ลองไปนั่งทานอาหารที่บาร์หรือที่นั่งริมระเบียงของร้านอาหาร "ไอวี่ เพลส" หรือซื้อผักสดออร์แกนิกและวัตถุดิบอาหารพิเศษที่ "FOOD & COMPANY"

หรือจะแวะไปยัง “Log Road Daikanyama” ที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างคล้ายกระท่อมทำด้วยไม้ตั้งเป็นหย่อมๆ แล้วมองหาของถูกตาถูกใจในร้านค้าหรือร้านกาแฟกัน จากนั้นค่อยไปกระดกแก้วเบียร์คราฟต์ซึ่งรินโดยตรงจากถังเบียร์ เพื่อฉลองความสำเร็จในการทัวร์ช้อปปิ้งที่ร้าน “Spring Valley Brewery Tokyo” กัน

ตระเวนชมบูติกที่ถนนเส้นด้านหลัง

หากต้องการซื้อของดีและประณีต ให้ลองเดินแยกไปยังถนนเส้นรองของไดคังยามะ ซึ่งมีร้านบูติกเล็กๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นอย่างมากตั้งเรียงรายกัน
ร้านแฟลกชิพของ Vermicular แบรนด์ชื่อดังด้านเครื่องครัวเคลือบโลหะคุณภาพสูงที่ผลิตด้วยฝีมืออันโดดเด่นของช่างชาวญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ไดคังยามะ ที่ร้านอาหารภายในร้าน ไม่เพียงแต่จะสามารถจับจ่ายซื้อของได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Vermicular ได้จริงและเพลิดเพลินกับอาหารที่ปรุงโดยเครื่องครัวของ Vermicular และวัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีแผนกขายอาหารปรุงสำเร็จ, ร้านอาหาร, ห้องสมุดตำราสูตรอาหาร, ร้านกาแฟ และชั้นเรียนทำอาหารในสถานที่แห่งเดียวกันนี้ด้วย

เตร็ดเตร่ตามเส้นทาง

ไดคังยามะ เมืองผู้นำเทรนด์แฟชั่นที่เหล่าดารานางแบบและเซเล็บต่างชื่นชอบ ยังมีโบราณสถานและสถานที่สวยงามที่ให้สัมผัสได้ถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป หากอากาศดีลองใส่รองเท้าสำหรับเดินเล่นออกมาเดินเที่ยวกัน ด้านหลังของ “ฮิลล์ไซด์เทอเรซ” มี “อดีตบ้านตระกูลอาซากุระ” อยู่อีกด้วย ที่พักอาศัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1919 โดยอดีตผู้ว่าการเทศบาลนครโตเกียวและผู้ว่าการเขตชิบุยะนายอาซาคุระ โทระจิโร่ ปัจจุบันได้กลายเป็นทรัพย์สินของประเทศและเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ แนะนำให้ไปเยี่ยมชมภายในที่พักอาศัยและสวนที่ถูกจัดเอาไว้อย่างประณีตงดงามแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ส่วนเนินที่อยู่ตรง “สวนสาธารณะไซโกยามะ” สามารถดื่มด่ำกับวิวซากุระยามเบ่งบานเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้ หากเดินขึ้นไปจนสุดเนินจะสามารถชมทิวทัศน์ของแม่น้ำเมกุโระและนากาเมกุโระซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านที่เก๋ไก๋ไม่แพ้กัน