คู่มือโตเกียวของฉัน
เมื่อพบหน้าเพจที่สนใจ กรุณาคลิกที่เครื่องหมายหัวใจเพื่อบันทึกไว้เป็น "ประวัติการเข้าชมของฉัน" กัน
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: February 20, 2023
เกาะมิคุระจิมะเป็นเกาะขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียงแค่ 20 ตารางกิโลเมตร รอบเกาะมีโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ สามารถสังเกตโลมาได้จากทั้งบนบกและบนเรือ เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้คือสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด รวมถึงสายพันธุ์เฉพาะถิ่น ใจกลางของเกาะมีภูเขามิยามะซึ่งมีความสูงเป็นอันดับสองในหมู่เกาะอิซุ (851 เมตร) เนื่องจากทั่วทั้งเกาะได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติการว่ายน้ำกับโลมาหรือการปีนเขาจะต้องได้รับอนุญาตจากโตเกียวเนเจอร์ไกด์เท่านั้น นอกจากนี้ยังห้ามขี่จักรยานหรือตั้งแคมป์ด้วย
*สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะไม่รองรับภาษาต่างประเทศ มาจำประโยคภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐานเพื่อการสนทนากันเถอะ
จากท่าเรือทาเคชิบะซัมบาชิ: ออกเรือโดยสารขนาดใหญ่จากท่าเรือทาเคชิบะซัมบาชิ แวะที่เกาะมิยาเกะจิมะ ไปถึงเกาะมิกูระจิมะตอนเช้าวันถัดไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที
ทางอากาศ : เดินทางไปเกาะฮาจิโจจิมะจากสนามบินฮาเนดะ หรือเดินทางโดยผ่านเกาะมิยาเกะจิมะจากสนามบินโจฟุ เปลี่ยนไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินเชื่อมต่อ จากเกาะฮาจิโจจิมะไปเกาะมิคุระจิมะใช้เวลาประมาณ 25 นาที, จากเกาะมิยาเกะจิมะไปเกาะมิคุระจิมะใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เป็นที่ทราบกันดีว่าที่เกาะมิกูระจิมะช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน เหล่าโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิกจะมาอาศัยชั่วคราวที่ใกล้เขตน่านน้ำ เรือชมโลมาเป็นเรือของทางที่พักหรือเรือที่ร่วมมือกัน มาสนุกสนานด้วยความรู้สึกของการที่จะได้แวะเยี่ยมชมมหาสมุทรที่มีโลมาแหวกว่ายอย่างอิสระกันเถอะ เกาะนี้ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน แนะนำให้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามนั้นจากบนเรือ
ถ้าไป “สวนสาธารณะเอบิเนะ” จะสามารถพบกับนิโออิเอบิเนะ (กล้วยไม้ดินคาลันเท) กล้วยไม้ป่าสายพันธุ์หนึ่ง แนะนำให้ไปเดินเล่นในป่า และลองหาต้นบ็อกซ์วูด, ต้นบีช, ต้นมัลเบอร์รี และไม้ก่อหนาม (Castanopsis) ที่มีลำต้นขนาดใหญ่กว่า 5 เมตร