
แชร์หน้านี้
Select Language
การค้นหาขั้นสูง: ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด, ประเภท, ระยะเวลา, พื้นที่ และ Tag สามารถค้นหาแบบละเอียดได้
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: January 15, 2025
ชิมบาชิมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษ
ชิมบาชิมีความหมายตรงตัวว่า "สะพานใหม่" ซึ่งหมายถึงสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำชิโอโดเมะในยุคเอโดะ (ปี 1603-1867) ต่อมาแม่น้ำชิโอโดเมะได้รับการถมเป็นผืนดินในภายหลัง
ด้วยลักษณะของเมืองที่มีตึกสำนักงานเรียงราย ชิมบาชิจึงได้รับการขนานนามเล่นๆ ว่า "แดนศักดิ์สิทธิ์ของพนักงานออฟฟิศ" ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการดื่มเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าหลังเลิกงาน
ชิโอโดเมะเป็นย่านเปี่ยมเสน่ห์ซึ่งผสมผสานความทันสมัยของโตเกียวและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว สามารถเพลิดเพลินกับวิวยามค่ำคืนแบบพาโนรามาจากตึกระฟ้า และช่วงเวลาอันเงียบสงบในสวนเชิงประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารหลากหลายและสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความศิวิไลซ์ของเมืองใหญ่และกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน
พื้นที่นี้มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีผู้คนพลุกพล่านอยู่เสมอ อีกทั้งบ้านเมืองที่สะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครันยังช่วยให้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ
การเดินทางมายังพื้นที่นี้ที่สะดวกที่สุดคือการใช้บริการ “สถานีชิมบาชิ” ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เปิดให้บริการในปี 1872 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ญี่ปุ่นเริ่มให้บริการรถไฟเป็นครั้งแรก สถานีชิมบาชิ เชื่อมต่อกับรถไฟหลายสาย ได้แก่ รถไฟ JR สายยามาโนเตะ, สายเคฮินโทโฮกุ, สายโทไกโด, สายโยโกสุกะ, รถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสายกินซ่า, รถไฟโทเอสายอาซากุสะ, รถไฟสายยูริกาโมเมะ สำหรับผู้ที่ใช้รถไฟโทเอสายโอเอโดะ แนะนำให้ลงที่ “สถานีชิโอโดเมะ” ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟสายยูริกาโมเมะเช่นกัน
จากสนามบินฮาเนดะ: ใช้เวลา 30 นาทีไปยังสถานี “ชิมบาชิ” โดยรถไฟเคคิวสาย Airport Line ขบวนด่วน Airport Express
จากสนามบินนาริตะ: ขึ้นรถไฟเคเซสกายไลเนอร์ไปยังสถานีนิปโปริ (36 นาที) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR สายยามาโนเตะไปยังสถานีชิมบาชิ (15 นาที), ขึ้นรถไฟ Keisei Access Express ไปยังสถานีชิมบาชิ (ประมาณ 70 นาที)
จากอาซากุสะ : ขึ้นรถไฟโทเอสายอาซากุสะ จากสถานีอาซากุสะไปยังสถานีชิมบาชิ ใช้เวลาประมาณ 14 นาที
จากกินซ่า : ขึ้นรถไฟโตเกียวเมโทรสายกินซ่า จากสถานีกินซ่าไปยังสถานีชิมบาชิ ใช้เวลาประมาณ 2 นาที
จากชิบุยะ: ขึ้นรถไฟโตเกียวเมโทรสายกินซ่า จากสถานีชิบุยะไปยังสถานีชิมบาชิ ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
จากอุเอโนะ: ขึ้นรถไฟ JR สายยามาโนเตะ จากสถานีอุเอโนะไปยังสถานีชิมบาชิ ใช้เวลาประมาณ 11 นาที
จากชินจูกุ: ขึ้นรถไฟโทเอสายโอเอโดะ จากสถานีชินจูกุไปยังสถานีชิโอโดเมะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ย่านชิมบาชิขึ้นชื่อเรื่องตัวเลือกอาหารที่หลากหลายจนไม่ต้องกังวลว่าจะหาอะไรรับประทานไม่ได้ ตรอกด้านหลังใกล้สถานีซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คนท้องถิ่นนั้นเรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็กๆ ที่มีเกือบทุกอย่างที่อยากทาน สำหรับผู้ที่อยากทำความรู้จักกับคนท้องถิ่น แนะนำให้ลองแวะบาร์ยืนดื่มเล็กๆ ซึ่งมีอยู่มากมายในย่านนี้
ชิโอโดเมะมีสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารพลางชมทัศนียภาพยามค่ำคืนที่ระยิบระยับด้วยแสงไฟ ช่วงเวลาแสนโรแมนติกที่โอบล้อมไปด้วยแสงไฟแห่งเมืองใหญ่นี้จะสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
ย่านชิมบาชิมีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่อาหารคลาสสิก อย่าง ซูชิ, ราเม็ง, และยากิโทริ (ไก่เสียบไม้ย่าง) ไปจนถึง อุด้ง, ชาบู ชาบู (หม้อไฟเนื้อและผัก), ไปจนถึงอาหารไคเซกิซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ปรุงอย่างประณีตและพิถีพิถันที่สุด
ในตรอกเล็กๆ ใกล้สถานีชิมบาชิ มีร้านเหล้าสไตล์อิซากายะแบบดั้งเดิมมากมายที่สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารทานเล่นได้ง่ายๆ เช่น “ชิมบาชิ การ์ด ชิโมะ โยโกโจ” และ “ยูราคุโจ ซันโชกุ โยโกโจ” หลังจากเพลิดเพลินกับยากิโทริ (ไก่เสียบไม้ย่าง), บาร์บีคิวสไตล์เกาหลี หรืออาหารจีนในราคาย่อมเยาแล้ว ลองไปพบปะผู้คนท้องถิ่นที่บาร์ยืนเล็กๆ ที่เสิร์ฟเบียร์ราคาถูกและเมนูจานเล็กกัน ทางเดินใต้สะพานยกระดับระยะประมาณ 300 เมตรระหว่างสถานีชิมบาชิและสถานียูราคุโจ มีพื้นที่ที่เรียกว่า “ฮิบิยะ OKUROJI“ เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ต่างๆ
ฮิบิยะ OKUROJI
ห้างสรรพสินค้าคาเรตตะชิโอโดเมะ มีทั้งร้านอาหารและบาร์บนชั้นที่ 46 และ 47 สามารถเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พลางชมทัศนียภาพอันงดงามของย่านชิโอโดเมะได้ในเวลาเดียวกัน
มีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกแต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ซูชิและอาหารพื้นเมืองของฮอกไกโด
ไฮไลท์ของย่านชิมบาชิ ได้แก่ โรงละครที่สามารถเพลิดเพลินกับศิลปะการแสดงคลาสสิกของญี่ปุ่น ร้านค้าเฉพาะทางที่แฟนโมเดลต้องแวะไปชม และเทศกาลฤดูร้อน ในย่านชิโอโดเมะยังมีนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ตกแต่งด้วยธีมอนิเมะ และสวนญี่ปุ่นอันเงียบสงบพร้อมธรรมชาติที่งดงามตามฤดูกาลทั้งสี่ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่อันดีเยี่ยมสำหรับการพักผ่อน ณ ใจกลางเมือง
หากต้องการสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ขอเชิญมารับชมการแสดงละครหรือคาบูกิได้ที่ “โรงละครชิมบาชิ เอ็นบุโจ” โรงละครคาบูกิแห่งนี้เปิดให้บริการในปี 1925 เพื่อจัดการแสดงเต้นแบบตะวันออก และได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 1982 เพื่อจัดการแสดงคาบูกิและละครต่างๆ
ภายในโรงละครมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและรับประทานอาหารในช่วงพักการแสดงได้
ที่ TAMIYA PLAMODEL FACTORY TOKYO มีสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับโมเดลอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นชุดประกอบโมเดล, ของเล่นวิทยุบังคับ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสร้างโมเดลทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีรถแข่งมินิ 4WD ในขนาด 1/1 ซึ่งเป็นโมเดลที่จัดแสดงไว้ เด็กๆ จะสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างแน่นอน แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถย้อนกลับสู่ความเป็นเด็กและเพลิดเพลินได้เช่นกัน
ชื่อเทศกาล “ชิมบาชิ โคอิจิ มัตสึริ” สื่อถึงความหมายที่ว่า “มาสนุกที่ชิมบาชิกันสักหนึ่งชั่วโมงหน่อยเถอะ” นอกจากงานรำวงบงโอโดริแบบดั้งเดิม, การแสดงดนตรี, และการออกบูธของธุรกิจในท้องถิ่นแล้ว ยังมีการประกวดนางงามชุดยูกาตะอีกด้วย
ที่ "ย่านชิโอโดเมะชิโอไซท์" มีนาฬิกาหายากซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างสตูดิโอจิบลิและสถานีโทรทัศน์นิปปอนเทเลบิ โดยฮายาโอะ มิยาซากิเป็นผู้ออกแบบด้วยตนเอง และรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยการตีขึ้นรูปแผ่นทองแดงทีละแผ่นโดยเหล่าช่างฝีมือเช่น คุนิโอะ ชาจิมารุซึ่งเป็นช่างประติมากร นาฬิกาคาราคุริอันน่าประทับใจนี้มีความสูงถึง 12 เมตร กว้าง 18 เมตร โดยจะขยับกลไกวันละหลายครั้ง
© Studio Ghibli
สวนฮามาริกิว ซึ่งสร้างขึ้นในยุคเอโดะ (ปี 1603-1867) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นด้วยบ่อน้ำที่รับน้ำขึ้นน้ำลงจากทะเลโดยมีเรือนน้ำชาเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับการเปลี่ยนแปลงของทัศนียภาพตามฤดูกาลและระดับน้ำทะเล ซึ่งนอกจากความงดงามที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลแล้ว ยังมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของวันด้วย
© สมาคมสวนสาธารณะแห่งกรุงโตเกียว องค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์
ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อธุรกิจหรือพักผ่อน มีโรงแรมหลายแห่งใกล้สถานีชิมบาชิที่เหมาะกับงบประมาณ
“The Royal Park Hotel Iconic Tokyo Shiodome” มีห้องพักหลายประเภทที่สามารถชื่นชมทัศนียภาพอันงดงาม เช่น ห้องพักที่ตกแต่งในธีม "New York Ambience" ที่ตั้งอยู่บนชั้น 26 ถึงชั้น 38 นอกจากนี้ ชั้น 38 ซึ่งเป็นชั้นเอ็กเซ็กคิวทีฟ ยังมีพื้นที่อันหรูหราและบริการพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นน้ำชายามบ่ายอันหรูหรา และบุฟเฟต์อาหารเช้าที่สามารถเพลิดเพลินได้ ณ ความสูงเหนือพื้นดินประมาณ 100 เมตร
“Hotel Villa Fontaine Grand Tokyo Shiodome“ เชื่อมต่อกับสถานีชิโอโดเมะผ่านทางเดินใต้ดิน และสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าพักในโรงแรมสุดหรู ณ ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตกที่เปิดให้บริการในปี 2024
นอกจากนี้ “Candeo Hotels Tokyo Shimbashi“ มีจุดเด่นที่อ่างอาบน้ำกลางแจ้งบนดาดฟ้า "สกาย สปา" ที่ให้แขกผู้มาเยือนได้ผ่อนคลายภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
The Royal Park Hotel Iconic Tokyo Shiodome