
แชร์หน้านี้
Select Language
การค้นหาขั้นสูง: ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด, ประเภท, ระยะเวลา, พื้นที่ และ Tag สามารถค้นหาแบบละเอียดได้
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: December 23, 2024
เที่ยวชมปราสาทเอโดะ (สวนตะวันออกของพระราชวังอิมพีเรียล) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเอโดะ และชานเมืองย่านฟุคากาวะ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเจ้าเมืองอย่างไดเมียวและประชาชนทั่วไปในสมัยนั้น
ปัจจุบันพระราชวังอิมพีเรียลเป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ แต่ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะอันกว้างใหญ่
เส้นทางที่เราแนะนำในครั้งนี้ ซึ่งเริ่มเดินผ่านประตูโอเทมงและนากาโนะมง ไปยังร่องรอยปราสาทหลัก ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไดเมียวใช้เพื่อเข้าไปในปราสาทเอโดะจริงๆ
สิ่งแรกที่จะเห็นคือ "ซันโนมารุโชโซกัง" หรือพิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณหลังจากเข้าประตูโอเทมงในทันที
เป็นที่จัดแสดงผลงานศิลปะและงานฝีมืออันทรงคุณค่าซึ่งสืบทอดมาจากราชวงศ์
"เฮียะคุนินบันโช (100-Man Guardhouse)" ที่อยู่บริเวณหน้าประตูนากาโนะมงเป็นจุดตรวจที่ใหญ่ที่สุดในปราสาทเอโดะ โดยจะมีองครักษ์ถือปืนประมาณ 120 นาย เฝ้าคุ้มกันปราสาทอยู่ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน สัมผัสประวัติศาสตร์ผ่านภาพถ่ายในสมัยนั้น และสัมผัสประสบการณ์การเป็นไดเมียวในยุคเอโดะกัน
(เดิน 3 นาที)
พื้นที่เหนือประตูนากาโนะมงเป็นพื้นที่พิเศษที่มีเพียงไดเมียวและผู้ติดตามอาวุโสเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในปราสาทได้ "ฟูจิมิ ยากุระ" เป็นป้อมปืนสามชั้นเพียงแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปราสาทเอโดะ และแม้ว่าจะถูกทำลายในแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต แต่ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยใช้วัสดุเดิม ซึ่งยังคงตั้งตระหง่านเป็นสภาพที่เห็นอยู่จนทุกวันนี้ ป้อมปืนแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทเอโดะเนื่องจากหอคอยปราสาทไม่ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่
(เดิน 3 นาที)
"ร่องรอยของทางเดินต้นสน" ปัจจุบันมีเพียงป้ายหินที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งทางเดินนี้เป็นทางเดินยาวที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่หลักของปราสาทเอโดะกับห้องโถงชิโรโชอินที่ใช้ตอนเข้าเฝ้าโชกุน
ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่อาซาโนะ ทาคุคามิโนะคามิ ไดเมียวผู้มีชื่อเสียงแห่งชูชิงกุระ ได้ลอบแทงคิระ คามิโนสุเกะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ได้นำไปสู่ตำนาน 47 โรนินแห่งแคว้นอะโคที่จะต่อสู้เพื่อชูชิงกุระ
(เดิน 5 นาที)
หอคอยของปราสาทเอโดะถูกทำลายในเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1657 ในสมัยของสึนะโยชิ โทกุกาวะ โชกุนรุ่นที่ 4 ในตอนนั้นได้มีการพิจารณาการบูรณะซ่อมแซมในทันที แต่ในช่วงยุคเอโดะที่สังคมสงบสุข โชกุนเอโดะจึงให้ความสำคัญกับการสร้างเมืองปราสาทขึ้นใหม่มากกว่าการบูรณะและสร้างหอคอยปราสาทขึ้นมาใหม่ หอคอยปราสาทซึ่งไม่มีฐานนั้นถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพมาตั้งแต่ในอดีต แต่ในปัจจุบัน มีการเรียกร้องให้มีสร้างขึ้้นใหม่เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ว่าหอคอยปราสาทมีสภาพอย่างไรในตอนนั้นได้โดยใช้แอป AR ที่พัฒนาขึ้นโดย "หน่วยงาน NPO สมาคมฟื้นฟูหอคอยปราสาทปราสาทเอโดะ" และสามารถชมแบบจำลองหอคอยปราสาทในห้องนิทรรศการถัดจากพื้นที่พักผ่อนหลักของตัวปราสาท
หอคอยปราสาทเสมือนจริงสามารถดูได้ด้วยแอป AR
(เดิน 10 นาที)
โชกุนรุ่นต่อๆ มาอาศัยอยู่ในปราสาทเอโดะ และระบบวังชั้นในหรือโอคุก็ถือกำเนิดขึ้น
นี่คือร่องรอยของนี่คือวังชั้นใน หรือที่เรียกว่าโอคุ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์คดีเอจิมะ-อิคุชิมะอันโด่งดัง ซึ่งยังคงใช้เป็นเนื้องเรื่องในละครและละครเวทีมาจนถึงทุกวันนี้
สุดท้าย ลงปราสาทผ่านประตูฮิราคาวะกัน
(เดิน + รถไฟ + เดิน 30 นาที)
สวนตะวันออกของพระราชวังอิมพีเรียล
เรากำลังสร้างภูมิทัศน์และบรรยากาศของเมืองฟุคากาวะ ซากะ ในช่วงปลายยุคเอโดะขึ้นมาใหม่ การใช้เทคนิคการจัดแสดงนิทรรศการที่เรียกว่า "นิทรรศการภาพบรรยากาศและจำลองภาพชีวิตความเป็นอยู่" นำเสนอเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวันตั้งแต่รุ่งเช้า ตั้งแต่ไก่ขันไปจนถึตอนพลบค่ำที่ระฆังทั้งหกลูกดังขึ้น เป็นช่วงระยะเวลาประมาณ 15 นาที จำลองภาพบรรยากาศของฤดูกาลทั้งสี่เพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนั้นโดยมีเสียงแสงประกอบ.
เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์วิถีชีวิตของผู้คนในยุคเอโดะที่สามารถมองเห็นหอดับเพลิง คูน้ำที่มีเรือลอยอยู่ ที่พักบนเรือ ภูมิทัศน์เมืองที่เรียงรายไปด้วยร้านผักผลไม้และร้านค้าขนาดใหญ่ และสัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศของชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในเรือนแถวในตรอกด้านหลังด้วย
(เดิน 13 นาที)
พิพิธภัณฑ์ฟุคากาวะเอโดะ
ฟุคากาวะ ฟูโดโด เป็นวัดสาขาย่อยในโตเกียวของวัดนาริตะซัน ชินโชจิ ในเมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ และเป็นที่รู้จักในชื่อ "ฟุโดะซามะแห่งฟุคากาวะ" ตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน พิธีสวดมนต์โกมะเป็นพิธีกรรมของศาสนาพุทธนิกายชินงอน หรือนิกายมนตรยานในญี่ปุ่น โดยจะวางต้นโกมะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกิเลสทางโลกท่าเปลวไฟ แล้วสวดบูชาพระประธาน เปลวไฟลุกโชนนี้แสดงถึงปัญญาของฟุโด เมียวโอ และมีพลังในการชำระล้างกิเลสทางโลก เปลวไฟที่ลุกโชน เสียงสวดมนต์ของพระสูตร และเสียงกลองใหญ่สี่ใบที่ตีดังระหว่างการสวดมนต์เป็นภาพที่น่าจะจดจำโดยไม่รู้ลืมเลยทีเดียว จะมีพิธีสวดมนต์โกมะ 5 ครั้งในทุกวัน ซึ่งผู้สนใจสามารถข้าร่วมได้