วัดสึกิจิฮงกัง 築地本願寺

การประชันความงามระหว่างสถาปัตยกรรมแบบเอเชียและยุโรป

ในย่านสึกิจิซึ่งอยู่ใกล้กับย่านกินซ่า มีสิ่งก่อสร้างโดดเด่นดึงดูดสายตาแตกต่างจากวัดพุทธอื่นๆ ในญี่ปุ่นมาก รูปแบบของสถาปัตยกรรมใช้หินอะมัลกัมที่หายากและหินประณีตวิจิตรบรรจงด้านหน้าอาคาร ทำให้นึกถึงรูปทรงและลวดลายที่ใช้ในสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาสมัยโบราณดั้งเดิมของเอเชีย รัฐบาลญี่ปุ่นจึงยกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ

รูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัยใหม่ของวัดสึกิจิฮงกัง ดูจะขัดกับประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานในฐานะที่เป็นวัดพุทธนิกายสุขาวดีที่ถูกสร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 17
สามารถชมโครงสร้างไม้ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของวัดญี่ปุ่นโบราณได้ที่อาซากุสะ แต่ไม่ใช่ที่นี่ ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในโตเกียว 2 ครั้งได้เผาทำลายวัดนี้ หลังจากนั้นสถาปนิกศาสตราจารย์เกียรติคุณของมหาวิทยาลัยโตเกียวเทโกกุ (มหาวิทยาลัยโตเกียวปัจจุบัน) ได้วางแผนสร้างวัดขึ้นใหม่ในปี 1930

ใช้เวลาให้เต็มที่กับการชื่นชมการตกแต่งภายนอกอันน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายดอกบัว หอคอยสุเหร่าและเสาหลัก สิ่งเหล่านี้ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และอิสลาม จิตวิญญาณการเปิดรับวัฒนธรรมอันหลากหลายของวัดแห่งนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่สถาปัตยกรรม แต่ยังจับใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือครูสอนศาสนาที่นับถือศาสนาอื่นด้วย

เมื่อเข้าไปในโบสถ์ นอกจากพระพุทธรูปของพระอมิตาภะพุทธเจ้า จะมีสิ่งที่เห็นแล้วมักนึกถึงโบสถ์คริสต์ 2 สิ่งคือ หน้าต่างกระจกสีลายดอกบัว และ Pipe Organ จากเยอรมันในสมัยโซเวียต

หลังจากชื่นชมความงามของวัดที่มีลักษณะพิเศษแล้ว ลองรับประทานของว่างที่คาเฟ่ในบริเวณวัดดูสักหน่อย หากไปย่านตลาดปลาตั้งแต่เช้าตรู่น่าจะเข้าร่วมสวดมนต์รอบแรกของวันได้ นอกจากนั้น ทางวัดยังได้ลงกำหนดการของคอนเสิร์ตช่วงกลางวันที่จัดขึ้นทุกเดือนไว้ในหน้าเว็บไซต์ด้วย