คู่มือโตเกียวของฉัน
เมื่อพบหน้าเพจที่สนใจ กรุณาคลิกที่เครื่องหมายหัวใจเพื่อบันทึกไว้เป็น "ประวัติการเข้าชมของฉัน" กัน
เนื้อหาหลักเริ่มที่นี่
Updated: August 17, 2023
เป็นช่วงเดือนการเปลี่ยนฤดูของโตเกียวจากฤดูร้อนเข้าฤดูใบไม้ร่วง สามารถเพลิดเพลินกับจุดเด่นของทั้งฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะเป็นประเพณีประจำฤดูร้อนอย่างงานดอกไม้ไฟ หรืองานเทศกาลที่ให้คุณได้ชื่นชมต้นไม้และอาหารการกินของฤดูใบไม้ร่วง
ช่วงต้นเดือนกันยายนนั้น อุณหภูมิยังคงสูงและมีความชื้น แต่เมื่อถึงช่วงปลายเดือน ความร้อนจะเริ่มผ่อนคลายและอากาศเย็นสบายขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3 องศา โดยมีอุณหภูมิสูงสุด 27.5 องศา และอุณหภูมิต่ำสุด 20.3 องศา อาจมีพายุไต้ฝุ่นเข้าในบางครั้ง เดือนกันยายนเป็นช่วงที่มีฝนตกมากในโตเกียว จึงแนะนำให้เตรียมแจ็กเก็ตกันน้ำหรือร่มติดตัวไว้ด้วย สำหรับข้อมูลพายุไต้ฝุ่นล่าสุด กรุณาตรวจสอบจากข่าวประจำวัน
“อาซากุสะ ซัมบะ คาร์นิวัล” คืองานเทศกาลแซมบ้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นงานอีเวนต์ที่เหมาะกับฤดูร้อน ทีมนักเต้นแซมบ้าตัวจริงเสียงจริงที่สวมใส่เสื้อผ้าสีเด่นสะดุดตาจากทั่วประเทศจะมารวมกันในงานนี้และเต้นรำในรูปแบบขบวนพาเหรดพร้อมกับรถดาชิที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยงานนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เหล่านักเต้นแซมบ้าตัวแทนญี่ปุ่นจะได้แสดงพรสวรรค์นั้
2023 นั้น มีกำหนดการจัดงานในขนาดเล็กลงกว่าทุกครั้ง
ป็นเทศกาลดอกไม้ไฟขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของภูมิภาคคันโตซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 30 ปี ในตัวเมืองโจฟุนั้น มีบริษัทที่ประกอบกิจการภาพยนตร์และวิดีโอมารวมตัวกันมากมายตั้งแต่ช่วงแรกของยุคโชวะ และได้รับการขนานนามว่าเป็นฮอลลีวู้ดของประเทศในบูรพาทิศตั้งแต่ยุคปีโชวะที่ 30 ในปัจจุบันก็ยังมีการถ่ายทำทั้งภาพยนตร์ ละคร และโฆษณา CM มากมาย จะมีการจุดดอกไม้ไฟกว่า 10,000 ดอกขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนของแม่น้ำทามะกาวะ โดยมี “ฮานาบิริวโจง” ซึ่งผสมผสานภาพยนตร์ ดนตรี และดอกไม้ไฟเข้าด้วยกันเป็นไฮไลท์ของงาน
งานดอกไม้ไฟโจฟุ เมืองแห่งภาพยนตร์
สวนสาธารณะอนุสรณ์สถานโคคุเอโชวะคิเนนประกอบไปด้วยทุ่งดอกไม้ 3 แห่ง ภายในพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตรได้ปลูกดอกคอสมอสเอาไว้ราวๆ 4.4 ล้านดอก นอกจากดอกคอสมอสแล้วคุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปะ, วัฒนธรรม, กีฬา และจุดน่าถ่ายรูปได้อีกด้วย
เทศกาลดอกคอสมอส
เทศกาลนี้ กล่าวกันว่าเริ่มต้นจากการที่โชกุนในสมัยนั้นช่วงปี 1974 กำหนดให้จัดงานเทศกาลประจำปีของงศาลเจ้าเนซึ ในสมัยนั้นถือเป็นอีเวนต์ระดับขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และแม้ทุกวันนี้ก็ยังมีการจัดงานอย่างครึกครื้น โดยมีร้านค้ามาออกร้านมากมายและมีการแสดงเต้นรำตามประเพณีดั้งเดิม สามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ได้จากอาคารของศาลเจ้าเนซึซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
เทศกาลใหญ่ประจำปีของศาลเจ้าเนซึ
นากาวะเป็นที่พักสมัยเอโดะแห่งแรกๆ บนถนนซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโตเกียว (ซึ่งมีชื่อเรียกว่าเอโดะในยุคนั้น) และเกียวโต เพื่อให้ประเพณีดั้งเดิมเหล่านี้ไม่ถูกลืมเลือนไป จึงมีการจัดจำลองการแต่งกายตามธรรมเนียมของยุคสมัยนั้นในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี คุณจะได้ชมการวางจำหน่ายสินค้า, หนังสือพิมพ์ภาพพิมพ์คาวาระบัง และการเดินลุยเพลิงซึ่งเป็นการจำลองบรรยากาศสมัยเอโดะ นอกจากนี้ ยังมีอีเวนต์อันเปี่ยมไปด้วยพลัง เช่น ร้านแผงลอย และขบวนพาเหรดที่รณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัย
เทศกาลแสดงที่พักสมัยเอโดะเมืองชินากาวะ
ในปี 2023 จะมีการจัดงานดอกไม้ไฟเขตคิตะซึ่งถือเป็นงานครบรอบครั้งที่ 10 การแสดงริมแม่น้ำที่มีการยิงดอกไม้ไฟตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างตื่นเต้นเร้าใจ สัมผัสกับเสียงอันระทึกใจราวกับงานคอนเสิร์ต และดอกไม้ไฟอันเปี่ยมไปด้วยพลังที่ถูกจุดขึ้นตรงหน้า ขอเชิญมาสนุกสนานกับภาพบรรยากาศการยิงดอกไม้ไฟขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนกว่า 10,000 ดอก
*มีแนะนำภาพบรรยากาศดอกไม้ไฟที่เว็บไซต์ทางการ
งานดอกไม้ไฟเขตคิตะ
ฮะงิก็เป็นดอกไม้ที่ชวนให้นึกถึงฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน สวนอันงดงาม “;สวนดอกไม้มูโกจิมะ” ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการชมดอกไม้อันบอบบางนี้ เมื่อถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชม“อุโมงค์ฮะงิ” ซึ่งประดับดอกฮะงิให้เลื้อยลอดตามโครงไม้ไผ่ที่มีความยาวกว่า 30 เมตร
อุโมงค์ฮะงิ (ENG)
“เทศกาลฟุคุโระ” ซึ่งจัดขึ้นที่ประตูทิศตะวันตกของสถานีอิเคบุคุโระ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1968 โดยมีย่านร้านค้าท้องถิ่นเป็นศูนย์กลาง ปัจจุบัน มีทั้งการแห่มิโคชิ การแสดงดนตรีและเต้นรำอันเปี่ยมพลัง และมีผู้คนมากมายหลายหมื่นคนหลั่งไหลมาเยือน
ที่ชินจูกุเงียวเอน ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีการจัดแสดงละครโนกลางแจ้ง “โมริโนะทาคิกิโน” ขึ้น ในงานอีเวนต์นี้ สามารถเพลิดเพลินไปกับศิลปะการแสดงดั้งเดิม เช่น ละครโน ละครเคียวเง็น ท่ามกลางสวนอันงดงาม และมีคบเพลิงสีแดงส่องสว่างบนเวที สวนจะเปิดถึงช่วงดึกเพื่องานนี้ สามารถเดินชมสวนชินจูกุเงียวเอนยามค่ำคืนซึ่งไม่สามารถเข้าชมได้ในช่วงเวลาปกติ