คิจิโจจิ

เมืองแห่งเรือและบาร์ และเสียงนกร้องใกล้สถานี

คิชิโจจินั้นตั้งอยู่ห่างจากสถานี “คิชิโจจิ” เพียงไม่กี่นาที และมี “สวนสาธารณะอิโนกาชิระ” ที่กว้างใหญ่และสวยงาม นอกจากนี้ คิชิโจจิเป็นเมืองที่มักจะได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ของโตเกียวด้วย คิชิโจจิยังเป็นย่านที่สะดวกในการเดินทางไปชิบุยะ, ชินจูกู และชิโมะคิตาซาวะแนะนำให้ไปคิชิโจจิเพื่อพักผ่อนหย่อนใจทั้งวันกับการขึ้นเรือหรือเดินท่ามกลางเหล่าต้นไม้ ตกเย็นแนะนำให้รับประทานอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ และไปตระเวนดื่มตามบาร์ยืนดื่มของ “ตรอกฮาโมนิก้า”
อาคารสถานีเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร และซื้อของฝากมากที่สุด นอกจากห้างมารูอิ, PARCO, ห้างสรรพสินค้าโตคิว และร้านยูนิโคล่แล้ว ยังมีศูนย์การค้าคิรารินะ เคโอ คิชิโจจิที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีคิชิโจจิ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่น และร้านอาหารเลิศรสมากมาย อีกทั้งยังมีโรงภาพยนตร์ "คิชิโจจิ โอเดียน" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 40 ปีเปิดให้บริการอยู่ด้วย

สนับสนุนโดย Musashino-shi Film Commission

วิธีการเดินทาง

สถานี “คิชิโจจิ” มีรถไฟ JR สายโซบุกับสายจูโอ และสายเคโออิโนกาชิระวิ่งผ่าน จากสถานี “คิชิโจจิ” ใช้เวลาเดินไป “พิพิธภัณฑ์จิบลิ” ประมาณ 15 นาที

จากสนามบินฮาเนดะ: ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยรถลีมูซีนบัส หรือ 1 ชั่วโมง 10 นาทีโดยรถไฟ
จากสนามบินนาริตะ: ใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยรถลีมูซีนบัส หรือ 1 ชั่วโมง 55 นาทีโดยรถไฟ
จากสถานีชินจูกุ: ขึ้นรถไฟ JR สายจูโอขบวนด่วนไปลงสถานี “คิชิโจจิ” ใช้เวลา 14 นาที
จากสถานีโตเกียว: ขึ้นรถไฟ JR สายจูโอขบวนด่วนไปลงสถานี “คิชิโจจิ” ใช้เวลา 28 นาที

สระน้ำที่มีเรือหงส์ลอยอยู่ ศาลเจ้า และซากุระ

ทั้งสนามหญ้าสีเขียวอันกว้างใหญ่ ป่าไม้ และพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะอิโนกาชิระถือเป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มทั้งที่อยู่ในเมืองใหญ่ ใจกลางสวนสาธารณะมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีเรือลอยอยู่ สามารถเช่าเรือเพื่อพายในสระ หรือถีบเรือหงส์เล่น ซื้อกาแฟจากคาเฟ่ที่อยู่รอบๆ สวนสาธารณะ และเดินเล่นท่ามกลางหมู่แมกไม้เพื่อมุ่งหน้าไปยัง “อิโนกาชิระ เบ็นไซเต็น” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
แม้ “สวนสาธารณะอิโนกาชิระ” จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เดินเล่นได้อย่างสบายใจ แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายนจะมีผู้คนมาชมดอกซากุระกันอย่างคับคั่ง และในเดือนพฤศจิกายนมีผู้คนมาชมใบเมเปิลกันอย่างจอแจอีกด้วย
นอกจากจะได้พักผ่อนหย่อนใจอย่างสบายแล้ว สวนสาธารณะแห่งนี้มีนกป่านานาชนิดอาศัยอยู่ สามารถสังเกตนกป่าที่ร้องเพลงไปพลางบินไปมาตามต้นไม้ และสามารถฟังเสียงร้องของสัตว์นานาชนิดที่ “สวนวัฒนธรรมและธรรมชาติอิโนกาชิระ” สวนสัตว์ที่อยู่ทางตะวันตกของสวนได้

ย่านการค้าและบาร์ยืนดื่ม

หากจะแวะซื้อของก่อนไปสวนสาธารณะหรือแวะดื่มหลังกลับจากสวนสาธารณะสัก 1 แก้ว แนะนำให้ไปย่านร้านค้าใหญ่ 2 ย่านที่ตัดผ่านเขตนี้คือ “ย่านร้านค้าคิชิโจจิซันโรด” กับ “ย่านคิชิโจจิไดยะ” ไม่ว่าจะย่านไหนก็มีร้านค้าเล็กๆ เช่น ร้านขายของใช้ในชีวิตประจำวันและร้านเสื้อผ้า ร้านขายขนมปังหรือร้านอาหารแบบง่ายๆ ตั้งเรียงรายอยู่อย่างแน่นขนัด คิชิโจจิที่ให้ความรู้สึกว่าตรอกแคบๆ เหมือนเขาวงกตจะทอดตัวไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเหมาะแก่การเดินสำรวจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเดินไปทางทิศเหนือของสถานีจะมีตรอกที่มีชื่อที่น่าสนใจว่า “ตรอกฮาโมนิก้า” อยู่ ตรอกนี้เป็นตรอกที่มีบาร์และร้านอาหารที่มีชีวิตชีวาตั้งแต่ตอนเย็นตั้งเรียงรายอยู่มากมาย บาร์ยืนดื่มเล็กๆ เหล่านี้จะเริ่มเปิดเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แนะนำให้สั่งเครื่องดื่มและกับแกล้ม เช่น ยากิโทริ (ไก่เสียบไม้ย่าง) เพื่อดื่มฉลองให้กับอาหารและเครื่องดื่มที่หาได้เฉพาะในญี่ปุ่นกับเวลาหนึ่งวันที่ได้ใช้อย่างคุ้มค่าที่ “สวนสาธารณะอิโนกาชิระ”

ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าที่ตรอกหลังย่านที่อยู่อาศัยที่เงียบสงัด

การสำรวจคิชิโจจิไม่ได้จำกัดอยู่แค่ “สวนสาธารณะอิโนกาชิระ” และบริเวณรอบสถานีเท่านั้น เมื่อออกจากประตูทางออกเหนือของสถานี “คิชิโจจิ” เพื่อไปยังเขตที่อยู่อาศัยอันเขียวขจี จะมีทั้งร้านอาหารขึ้นชื่อ คาเฟ่แสนคลาสสิก รวมถึงร้านซีเล็กต์ช็อปเครื่องประดับ ไม่ว่าจะใช้เวลาอยู่ที่นี่อย่างเงียบสงบและสบายๆ สักพัก หรือเดินเที่ยวชมสินค้า หรือรับประทานอาหารกลางวันแบบช้าๆ สบายๆ ก็ใช้เวลาได้เหมาะสมอย่างที่สุด